Menu

เมื่อสูงสุด กลับสู่สามัญ

การอยู่กับปัจจุบันคงเป็นเรื่องที่อาจจะดีที่สุด

แต่การอยู่กับปัจจุบันก็ต้องเท่าทันเทคโนโลยีบ้างและไม่ละทิ้งซึ่งอดีต

เฉกเช่นกับรถที่ผมจะนำมาทำบทความรีวิวในวันนี้นี่แหล่ะครับ

((SUZUKI ADDRESS 110))

รถที่มีความเป็นทั้งอดีต มีทั้งความเป็นปัจจุบัน และมีความเป็นอนาคตอยู่รวมกัน

กระทู้นี้ก็เช่นเดิมครับ เรียบง่าย ไม่ไหลปลาย ทำออกมาให้คล้ายสไตล์ของรถนั่นแล 5555

ที่สำคัญ สายซูเค้ารู้กันครับ

การจะนำรถมาบอกเล่าได้ดี สำหรับผมที่ไม่ได้เทพขนาดขับสามกิโลแล้วจับความรู้สึกได้ในทันที

ก็เลยต้องหาวิธี ที่จะได้รู้จักกับเจ้า ADDRESS ให้มากขึ้น ระยะทาง จะเยียวยาทุกอย่าง

ADDRESS ถ้าแปลกันแบบง่อยๆก็คือที่อยู่

ผมคิดอยู่นาน ว่าแล้วที่อยู่ของผมจริงๆล่ะ คืออะไร ที่ไหน?

จากการเดินทางครั้งนี้ ทำให้ผมเข้าใจอะไรได้มากขึ้น และรู้จักเจ้า ADDRESS มากขึ้นเช่นกันครับ

เส้นทางที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้เป็นเส้นทางของการดำรงอยู่ของผมเองครับ

กรุงเทพ – ศรีสะเกษ

โดยตอนแรกตั้งเป้าหมายว่าจะกลับบ้านที่นานๆทีจะได้กลับ

แต่ขับไปขับมาผมก็กลับไปไม่ถึงบ้านตัวเองจริงๆ

เพราะก่อนถึงก็แวะไปเรื่อยครับ ขับแบบอยากจอดอยากพักตรงไหนก็พัก

พอนึกได้ขาไปก็มาโผล่อยู่ที่สนามช้างแหล่วว

ณ ตอนนี้การเตรียมความพร้อมสำหรับ MOTO GP ก็ใกล้เสร็จลุล่วงแล้วครับ

พอขับกลับเข้าสู่ถนนหมายเลข 24 กับความเร็วมุ้งมิ้งน่ารัก

ผมก็นึกขึ้นได้อย่างนึงครับว่า ที่อยู่ ของผมจริงๆนั้น มันอาจจะไม่ได้หมายถึงบ้าน ไม่ได้หมายถึงสถานที่ไหนๆ

แต่กลับเป็นแค่การได้อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ที่เราขับแล้วมีความสุข

การอยู่บนภาหนะที่นำพาเราไปได้ใยทุกๆที่ ที่เราต้องการจะไป

สรุปทริปนี้ ที่หมายของผมกลับกลายเป็นว่าผมกลับไปไม่ถึงบ้านของผมเอง

แต่ผมไปเก็บเกี่ยวเส้นทางที่ห่างหายจากความทรงจำไปแทน

และนั่นแหล่ะครับ

สุดท้าย ที่อยู่ ไม่ได้จำกัดความไว้แค่ว่าต้องเป็นสถานที่

แต่คุณอยู่ที่ไหน คุณทำอะไร แล้วคุณรู้สึกปล่อยวาง รู้สึกสบายใจ

แม้คุณจะอยู่แค่บนรถมอเตอร์ไซค์ มันก็คือที่อยู่ของความสุขของคุณได้เอง

อันที่จริง ADDRESS ได้วางจำหน่ายมาอย่างยาวนานแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่นแหล่งต้นกำเนิดเอง

หรือแม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงกัน แต่กระนั้น ประเทศไทยเราก็พึ่งมีโอกาสนำเข้ามาวางจำหน่ายเมื่อไม่นานมานี่เอง

และจากรูปทรง ผมว่ามันน่าจะเป็น ADDRESS ที่ทรงดีที่สุดเท่าที่เคยมีวางจำหน่ายมา

กลับมาที่เรื่องที่ว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ ที่เกริ่นไว้ตั้งแต่หัวบทความกันครับ

ที่ต้องกล่าวเช่นนั้น เพราะเจ้า ADDRESS เนี่ยมันทำให้ผมนึกถึงคำๆนี้จริงๆ

ในขณะที่เทคโนโลยีปัจจุบันก้าวไปไกล แต่มันก็ยังคงเหลือกลิ่นไอของความคลาสสิคแต่ดั้งเดิมไว้

ถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะไม่ชอบ แต่ บางคนก็อาจจะชอบอะไรที่มันเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน

ความคลาสสิคเล็กๆที่ว่าอยู่จุดไหนของตัวรถบ้าง เรามาไล่ดูไปพร้อมๆกันดีกว่า

เรือนไมล์

ในยุคที่ดิจิตอลครองเมือง ADDRESS กลับมาเลือกใช้งานเรือนไมล์และเข็มน้ำมันแบบเข็มกวาด

ระบบไฟแบบ LED
แน่นอนครับว่า ไม่มีอยู่ในเจ้า ADDRESS มันยังคงใช้หลอดไฟแบบหลอดไส้ แต่เชื่อมั้ยครับว่า ผมชอบไฟแบบนี้มากว่านะ

ขับตอนกลางคืนรู้สึกว่ามันเห็นทางชัดเจนกว่าแบบ LED เสียอีก

อันนี้อยากให้ไปลองด้วยตัวเองดูจริงๆครับ ไฟหน้าสว่างเว่อร์วังอลังการมากกกกก มีกอไก่เท่าไหร่ใส่ไปให้หมด

รูปทรง

สวย สวย สวย ใครไม่สวย ADDRESS สวย

คันที่ทีม JUST-RIDE-IT ได้นำมาขับขี่ทดสอบในครั้งนี้ เป็นสีฟ้า เข้ากับ MOTO GP ที่จะถึงนี้มากๆ

คาดด้วยสติ๊กเกอร์สีเหลือง นี่แหล่ะที่เค้าเรียกกันว่า”ฟ้าเหลือง”

ท่าทางการขับขี่

เป็นมิตรกับทั้งเด็ก สตรีและชายฉะกัน รวมไปถึงเป็นมิตรกับคนซ้อนด้วยเช่นกันครับ

การปรับตำแหน่งท่านั่งทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคนสูงยาวเข่าดี หรือเล็กสั้น ก็ควบคุมได้ไม่ยาก

แม้มิติของตัวรถจะดูเล็กเมื่อมองจากกายภาพภายนอก แต่เป็นความเล็กที่ซ่อนความใหญ่และสบายไว้ได้อย่างแนบเนียนดีอันนี้ชอบ

ที่วางเท้าผู้ขับขี่ขนาดใหญ่โดยมีความกว้าง 412 มม. และ ยาวถึง 374 มม. ผมไม่เล็กนะครับ!!!

คนซ้อนขนาดของเบาะ ที่ไม่ใหญ่จนเกินไปทำให้นั่งได้สบายและวางเท้าถึงพักเท้าไม่ลำบากมากนัก

เครื่องยนต์

ความธรรมดาเรียบง่ายแบบดั้งเดิมที่เพิ่มเติมออฟชั่นของปัจจุบัน

ที่ว่าดั้งเดิมคือเป็นระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ แต่ออฟชั่นของปัจจุบันอย่างหัวฉีดก็ถูกหยิบยกมาใส่ด้วยเช่นกัน

ในโฆษณาบอกว่ามีการลดนำหนักของเครื่องยนต์ ทำหัวฉีดให้ใกล้ห้องเผาไหม้มากขึ้น

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และช่วยเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง

ระบบเบรค

SUZUKI ในรถรุ่นเล็กๆ มีระบบเบรคที่ผมว่าเป็นเอกลักษณ์ติดตัวไปแล้วหนึ่งอย่าง

นั่นก็คือเบรคจะทื่อๆดื้อมือนิดๆ เบรคทื่อในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเบรคไม่อยู่นะครับ

ดิสเบรคหน้าและดรัมเบรคหลัง

ชุดเบรคทำงานได้อย่างดีและเพียงพอที่จะหยุดรถได้อย่างสบายๆ ซึ่งเรื่องเบรคทื่อเนี่ยใครเคยใช้ซูอยู่แล้วก็ไม่ใช่ปัญหา

แต่หากพึ่งมาลองใช้อาจต้องใช้เวลาปรับตัวปรับมือกันสักนิดนึง

ก้านเบรคหลังมีตัวล็อคเบรคเอาไว้ใช้สำหรับเวลาจอดตามเนินด้วย

ถังน้ำมัน

ความจุขนาด 5.2ลิตร

แอบเติมยากนิดๆ ต้องคอยบอกพนักงานเติมน้ำมันให้ระวังมันกระฉอกอยู่รื่อยๆถ้าต้องเติมแบบเต็มถัง

แค่นี้วิ่งได้แค่ไหน จากการทดสอบขับขี่แบบความเร็วเฉลี่ยที่แปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิงยาวๆ สระบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ

ได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 50 กิโลเมตรต่อลิตร พอหมดถังลองแบบหมดปลอกแช่ยาวๆบนเส้นทางเส้นเดิม ก็ยังได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 40 กิโลเมตรต่อลิตรครับ

ประหยัด!!!! มากกกกก

ความเร็ว + ความแรง

แม้ชื่อรุ่นจะระบุ CC ไว้ที่ 110 แต่ความจุจริงๆที่ได้ล้นมาอีก 3CC รวมเป็น 113CC

ความเร็วสูงสุดทางราบเรียบและลมสงบตามหน้าไมล์อยู่ที่ 110กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบกับ GPS แล้วความเร็วจริงเฉลี่ยอยู่ที่ 102-103

ซึ่งถือว่าทำความเร็วเฉลี่ยออกมาได้ดีเลยสำหรับรถที่มี CC เท่านี้

ส่วนความแรง แรงต้นกับกลางไม่น้อยหน้าใครในยามที่ต้องออกตัวครับ แต่หลัง80ไปแล้วก็ต้องใช้เวลาในการไต่ระดับความเร็วกันพักนึง

สิ่งอำนวยความสะดวก

หลักๆก็ไม่พ้นช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้เบาะ โดยมีขนาด 20.6 ลิตร ใส่หมวกเต็มใบได้น่าจะเกือบทุกรุ่น

หรือถ้าเดินทางชิลๆสามวันสองคืนสามารถนำเสื้อผ้าไว้ใต้เบาะโดยไม่ต้องแบกกระเป๋าให้วุ่นวาย

ภายในมีชุดเครื่องมือแอบๆไว้ด้วย

บาร์ท้าย ที่มีนัยยะ หากล่องและถาดมาวางได้เพิ่มเติมตามแต่ความต้องการได้เลยครับ

ช่วงล่าง

แม้นำหนักตัวรถจะอยู่ที่ 98กิโลกรัม แต่การกระจายน้ำหนักของรถทำได้ดีครับทำให้ไม่รู้สึกสะท้านสะเทือนมากเมื่อใช้ความเร็วที่สูงขึ้น
โช็คหน้าหลังทำงานร่วมกันแบบเป็นกลาง ไม่อ่อนไม่แข็งเกินไป โดยส่วนตัวผมว่ามันดีขึ้นจากหลายๆรุ่นที่เคยลองขับขี่มา
โดยเฉพาะโช็คหน้า

สรุปรวมๆ

นับว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่าหลายอย่าง ทั้งราคาที่ไม่ได้สูงมาก 45,900 บาท อุปกรณ์ติดรถที่มีมาก็ใช้งานได้ดีครบถ้วน

โดยข้อดีหลักๆก็เป็นเรื่องความที่มันยังไม่ได้เป็นอนาคตมากจนเกินไป ทำให้เซอร์วิสได้เองอย่างไม่ยากเย็นนัก

ความคล่องตัวสูง และอยากจะเน้นเรื่องศูนย์บริการนะครับ อันนี้จากใจคนที่ใช้ซูมาค่อนชีวิตแบบผมเลยฮาา

ศูนย์แม้ว่าจะดูเหมือนน้อย แต่ ณ ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตอยู่ในมือของเราแทบจะทุกคนอยู่แล้ว

ท่านสามารถสั่งซื้อหรือสอบถามอะไหล่ได้ที่ศูนย์ใหญ่โดยตรง เค้ามีแบบจัดส่งพัสดุให้ได้ครับ

นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ

โดยเข้าไปที่หน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/SuzukiSociety/

สุดท้าย อย่างที่บอกไปครับ

“สายซูเค้ารู้กัน”

ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อๆไปครับ

ขอขอบคุณ
JUST-RIDE-IT
HTTPS://WWW.FACEBOOK.COM/JUSTRIDEITTEAM/

ต้นฉบับจาก : https://pantip.com/topic/38102348


ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
0
Scroll Up